วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

รายงานวิจัย พุทธศาสนากับโหราศาสตร์ (4/4)

ข้อเสนอแนะ
จากการศึกษาเรื่องทรรศนะของพุทธปรัชญาเถรวาทต่อโหราศาสตร์ในยุคปัจจุบัน ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะต่าง ๆ ดังนี้

๑) มีการศึกษาโหราศาสตร์อย่างถูกต้องแบบวิทยาศาสตร์หรือศิลปศาสตร์ เนื่องจากองค์ความรู้ในเรื่องนี้มีมาก และต้องการการศึกษาวิจัยกันอย่างจริงจัง ประโยชน์ที่เกิดอย่างเห็นได้ชัดคือประโยชน์ด้านจิตวิทยา นักจิตวิทยาควรจะศึกษาโหราศาสตร์อย่างนักวิชาการ เพื่อสร้างทัศนคติที่ดี และนำมาใช้ประโยชน์ในทางจิตวิทยาได้ ซึ่งในทางตะวันตกมีการนำมาใช้บ้างแล้ว

๒) ควรมีการอบรมให้ความรู้ด้านการให้การปรึกษาแก่ผู้ที่ใช้โหราศาสตร์ในการให้การปรึกษาหรือหมอดูทั้งหลาย เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้มารับการปรึกษาว่าหมอดูมีความรู้ในการให้การปรึกษาอย่างมีระบบ

๓) สำหรับพระภิกษุผู้มุ่งสู่การปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ ไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ แต่ควรมีความรู้เรื่องนี้ไว้บ้างเพื่อสั่งสอนชาวบ้านให้วางท่าทีอย่างถูกต้องกับเรื่องนี้ ส่วนภิกษุผู้ที่ยังต้องเกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์อยู่ด้วยเห็นว่าเป็นความรู้ที่มีประโยชน์ ก็ควรใช้ให้สอดคล้องกับหลักธรรมในพุทธศาสนา คืออธิบายคำทำนายด้วยหลักกรรมที่ถูกต้อง และชี้ทางการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่หวังพึ่งพาอำนาจภายนอก

๔) สำหรับผู้ที่สนใจในโหราศาสตร์ ควรจะศึกษาหาความรู้อย่างกว้างขวาง ไม่พอใจเพียงแค่ทำนายได้ แต่ควรจะมีความรู้รอบตัวในเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น ปรัชญา วิทยาศาสตร์ และจิตวิทยา เป็นต้น เพื่อความเข้าใจโหราศาสตร์อย่างแท้จริง ไม่หลงเชื่ออย่างงมงาย ควรมีความเชื่อตามหลักกาลามสูตร และมีความรู้ทางพุทธศาสนาเพื่อการแนะนำผู้อื่นอย่างมีประโยชน์

การศึกษาในเรื่องโหราศาสตร์นี้ทำให้เกิดประเด็นที่น่าสนใจขึ้นมากมาย มีหลายประเด็นปัญหาที่สมควร
จะศึกษาวิจัยในเชิงลึกต่อไป ประเด็นที่น่าสนใจเหล่านี้ได้แก่

๑) การศึกษาเรื่องการใช้หลักธรรมในพุทธศาสนาเพื่อการให้การปรึกษา
เป็นการประยุกต์นำหลักธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในกระบวนการให้การปรึกษาทางจิตวิทยา เนื่องจากพุทธศาสนามีองค์ความรู้ในด้านนี้พอเพียง แค่ยังไม่มีการจัดสรรให้เป็นระบบ ควรจะมีการศึกษาทฤษฎีการให้การปรึกษาแนวพุทธ ศึกษาทักษะการให้การปรึกษาจากพระพุทธเจ้าและพระสาวก จากนั้นนำมาสังเคราะห์เป็นหลักการให้คำปรึกษาแบบพุทธ ซึ่งทำให้พระหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการให้การปรึกษา มีทักษะและความรู้ที่พอเพียงในการเป็นที่ปรึกษาของชาวบ้าน สร้างความมั่นใจให้ชาวบ้านได้ว่าพุทธศาสนาสามารถช่วยได้ การพึ่งพาหมอดูในสังคมไทยก็จะลดลง

๒) การศึกษาเรื่องการใช้หลักธรรมในพุทธศาสนาเพื่อทำจิตบำบัด
ปัจจุบันนักจิตวิทยาเริ่มให้ความสนใจภูมิปัญญาของพุทธศาสนา เพื่อใช้ในการทำจิตบำบัด มีการบำบัดด้วยวิธีสะกดจิตให้ระลึกชาติ (past life therapy) มีการใช้วิธีฝึกสติเพื่อการบำบัด (mindfulness-based cognitive therapy, MBCT) การนำหลักธรรมและหลักปฏิบัติในพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในโลกปัจจุบัน จะทำให้พุทธศาสนาแผ่ขยายไปสู่โลกกว้างได้ เรื่องนี้ควรมีการศึกษากันอย่างจริงจัง

รายงานวิจัยเรื่อง “พุทธศาสนากับโหราศาสตร์”
โดย น.ส.ศิรินญา นภาศัพท์ (http://www.crs.mahidol.ac.th/)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น