วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

รายงานวิจัย พุทธศาสนากับโหราศาสตร์ (2/4)

ปัจจุบันเมื่อเป็นการยากที่จะปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ได้ในชีวิตปัจจุบัน ผู้วิจัยจึงเสนอแนวทางการใช้ประโยชน์จากโหราศาสตร์ตามหลักพุทธศาสนา โดยบุคคลผู้รับการทำนายควรตระหนักว่า โหราศาสตร์ไม่สามารถบอกความจริงได้ทั้งหมด ชีวิตเรามีเสรีภาพไม่ได้ถูกกำหนดมาแล้ว และความเพียรความมีสติสามารถเอาชนะโชคชะตาได้เสมอ ซึ่งสรุปประเด็นหลัก สองประเด็นคือ
ความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์เป็นความเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือประกาศิตจากสวรรค์ใช่หรือไม่

เรื่อง “พรหมลิขิต” เป็นแนวความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ซึ่งความจริงแล้วโหราศาสตร์ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาเลย เพียงแต่โหราศาสตร์อินเดียอันเป็นต้นตระกูลของโหราศาสตร์ไทยนั้นเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ผู้คนจึงมักรวมโหราศาสตร์เข้ากับศาสนา อันที่จริงโหราศาสตร์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเชื่อใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นศาสตร์ที่เกิดจากการสังเกตปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ สืบเนื่องมานานกว่า พันปีซึ่งมีการบันทึกเป็นสถิติ เรียกได้ว่ามีความเป็นวิทยาศาสตร์มากกว่าศาสนา โดยเฉพาะศาสนาแบบเทวนิยม โหราศาสตร์จึงไม่เกี่ยวกับเทพเจ้า   เมื่อเราเข้าใจโหราศาสตร์ว่าเป็นวิทยาศาสตร์แบบหนึ่ง ก็จะรู้ว่าโหราศาสตร์ไม่เกี่ยวอะไรกับพรหมลิขิตหรือเทพเจ้าทั้งหลาย ดวงดาวเป็นเพียงตัวบอก เท่านั้น ดังนั้นหากเราได้ศึกษาโหราศาสตร์อย่างถูกต้องก็จะทราบว่า ความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์ไม่ใช่ความเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือประกาศิตจากสวรรค์ใดๆ เป็นเพียงแค่การเข้าใจผิดเท่านั้น

ความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์เป็นความเชื่อที่ขัดกับคำสอนเรื่องกรรมใช่หรือไม่

กรรมในโหราศาสตร์และกรรมในพุทธศาสนาเป็นคนละเรื่องกัน กรรมในพุทธศาสนาเน้นในเรื่องเจตนาที่เป็นกุศลหรืออกุศล อันจะนำมาซึ่งผลของกรรม ทำให้เกิดกิเลสอันเป็นเหตุให้ทำกรรมต่อไป เกิดเป็นวัฏฏะวงจรไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าเราจะดำเนินตามอริยมรรคมีองค์แปด ส่วนโหราศาสตร์จะสนใจเหตุในอดีตที่ส่งผลมาให้เกิดสภาพในปัจจุบันและส่งผลไปในอนาคตเป็นหลัก ความเชื่อที่ว่าทุกข์สุขที่เราได้รับเป็นผลมาจากกรรมในอดีตเท่านั้นเป็นความเชื่อที่ผิดหลักกรรม ดังที่ได้ยก ๓ ลัทธิที่สอนผิดหลักกรรมมาแสดง ได้แก่ ลัทธิเทวาบันดาล ลัทธิกรรมเก่า และลัทธิไร้เหตุ ความเชื่อในเรื่องของกรรมที่ถูกจะต้องไม่ตกไปอยู่ในลัทธิทั้งสาม และอิงตามนิยาม 5 จริงอยู่ที่กรรมในอดีตย่อมมีผล เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่บุคคลย่อมมีความเพียรที่จะประกอบกุศลกรรม เพื่อจะบรรเทาผลของกรรมเก่าและสร้างอนาคตแห่งกรรมใหม่ได้ด้วยตัวเอง พรหมลิขิตไม่มีในพุทธศาสนา

การเข้าใจโหราศาสตร์อย่างถูกต้องต้องแยกโหราศาสตร์ออกจากศาสนาคือยอมรับว่าโหราศาสตร์เป็น
เพียงศาสตร์หนึ่งและยอมรับว่าอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน กรรมในปัจจุบันย่อมมีผลต่อผลกรรมในอนาคตไม่แพ้กรรมในอดีต ไม่มีใครทราบกระบวนการของกรรมได้ดีเท่าพระพุทธเจ้า ดังนั้นจงใช้และเชื่อโหราศาสตร์ภายในขอบเขตของมัน

รายงานวิจัยเรื่อง “พุทธศาสนากับโหราศาสตร์”
โดย น.ส.ศิรินญา นภาศัพท์ (http://www.crs.mahidol.ac.th/)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น